วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สองคนยลตามช่อง

“สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็นดาวอยู่แพรวพราย” เคยได้ยินโคลงนี้ไหม เอาละจะเคยได้ยินหรือไม่เคยได้ยินก็แล้วแต่ แต่เราจะมาคุยกันเรื่องนี้แหละ ซึ่งความหมายก็คือต่างคนต่างมีมุมมองที่แตกต่างกัน ในมุมมองเดียวกันคือมองออกไปจากช่องทางเดียวกัน สองคนยังเห็นไม่เหมือนกัน มีปัจจัยอีกหลากหลายที่จะทำให้คนเรามองอะไรแตกต่างกัน

เออ แล้วการที่คนมองอะไรแตกต่างกันนี่ดีไหมล่ะ ที่จริงมันก็มีดีมีเสียนะ คือถ้าเป็นความคิดเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ถ้าเห็นเหมือนกันคิดเหมือนกัน มันก็ดี เค้าก็เรียกว่าพวกเดียวกัน คิดเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นวัตถุสิ่งของ ชอบเหมือนกัน หลาย ๆ คน ถ้าของนั้นมันมีน้อยมันก็แก่งแย่งกัน เห็นไหมคนเรา เห็นไม่เหมือนกันมันก็พาไปถึงจุดขัดแย้งกันได้ แต่พอคิดเหมือนกัน ชอบเหมือนกัน ก็พาไปขัดแย้งได้เหมือนกัน

การที่เรารู้ว่าคนเราย่อมมีความเห็นแตกต่างกันได้ ก็จะได้ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน และก็อาจจะมีการแบ่งปันความเห็นซึ่งกันและกัน มีการเปลี่ยนมุมมอง ให้เกิดมุมมองใหม่ ก็อาจจะทำให้ความขัดแย้งลดน้อยลงได้

แต่ สาเหตุที่ความขัดแย้งไม่สามารถจะลดลงได้ มักจะเกิดจากความอิจฉา ริษยา ความอาฆาต เคียดแค้น หากความขัดแย้งเกิดจากสิ่งเหล่านี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ความขัดแย้งหายไป เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ขัดแย้งที่เกิดทุกวันนี้ ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้างซิว่ามันเป็นเรื่องของ ความอิจฉา ริษยา ความอาฆาต หรือเปล่า ถ้าใช่มันก็เรื่องส่วนตัว คนที่เป็นกองเชียร์ควรจะทำอย่างไร ฝากไว้คิดกัน